ในปัจจุบันอุติการณ์ของมะเร็งเต้านมมีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับในประเทศไทยแล้วนั้น ถือเป็นประเทศที่พบว่าผู้หญิงไทยเป็นมะเร็วเต้านมอันดับที่ 1 ของโลก โดยปัจจัยความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านมเกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน และรู้ไหมว่า ควันพอท บุหรี่ไฟฟ้า ก็ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้เกิดมะเร็งเต้านมได้ด้วยเช่นกัน
มะเร็งเต้านมเกิดจากอะไร
มะเร็งเต้านม เกิดจากความผิดปกติของเซลล์ท่อน้ำนม ซึ่งพบได้มากที่สุดประมาณ 80% ส่วนมะเร็งที่เกิดจากความผิดปกติของเซลล์ต่อมน้ำนม จะพบได้น้อยกว่า โดยพบประมาณ 10% นอกจากนี้ มะเร็งชนิดนี้อาจเกิดขึ้นจากการแพร่กระจายของมะเร็งมาจากอวัยวะส่วนอื่น ๆ ได้
ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านม
ในปัจจุบันยังคงมีการถกเถียงเพื่อหาข้อสรุปเรื่องปัจจัยเสี่ยงที่เป็นสาเหตุการเกิดโรคมะเร็งเต้านม อย่างไรก็ตาม พบว่ามีหลายปัจจัยที่ยืนยันแล้วว่ามีความสัมพันธ์กับโอกาสเกิดมะเร็งเต้านม ทั้งในแง่บวกและในแง่ลบ ได้แก่
- เพศ : เพศหญิงมีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านมมากกว่าผู้ชายถึง 100 เท่า
- เชื้อชาติ : ผู้หญิงในชาติตะวันตกจะมีความเสี่ยงสูงกว่าผู้หญิงเอเชีย
- ยาคุมกำเนิด : การใช้ยาคุมกำเนิดที่เป็นระยะเวลานาน มากกว่า 5-10ปีนั้น เป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านม
- ฮอร์โมนเพศ : ประจำเดือนมาตั้งแต่ตอนอายุน้อยๆ หรือวัยหมดประจำเดือนมาถึงช้า
- อายุ : เมื่ออายุมากขึ้น โอกาสเกิดความผิดปกติของยีนในเซลล์ก็จะเพิ่มขึ้น อาจส่งผลต่อการเกิดมะเร็งได้
- ภาวะอ้วน :โรคอ้วนเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งเต้านมมากขึ้น
- พันธุกรรม: มีประวัติโรคมะเร็งเต้านมทางครอบครัว โดยเฉพาะหากญาติที่เป็นมะเร็งชนิดนี้เป็นญาติสายตรง จะยิ่งเสี่ยงมากขึ้น เช่น แม่ น้องสาว หรือพี่สาว
- การดื่มแอลกอฮอล์ : ผู้หญิงกลุ่มที่ดื่มแอลกฮอล์เป็นประจำ จะมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านมสูงกว่าผู้หญิงที่ไม่ดื่ม
- ควันบุหรี่ : จากรายงานวิจัยของ ดร.คาเรนมาร์โกลิส และคณะ จากมูลนิธิภาคีวิจัยสุขภาพ รัฐมินิโซตา สหรัฐอเมริกา พบว่า การสูบบุหรี่ม้วนและพอท บุหรี่ไฟฟ้า หรือได้รับควันบุหรี่ มีส่วนเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งเต้านมได้ โดยมีข้อมูลจากการวิจัยพบว่าสารเคมีในควันบุหรี่มือสองกว่า 20 ชนิด ส่งผลให้เกิดมะเร็งเต้านม
อย่างไรก็ตาม มะเร็งเต้านมในระยะแรกเริ่มไม่มีอาการ การตรวจร่างกายอาจยังตรวจไม่พบ แต่อย่าชะล่าใจไปล่ะ ดังนั้น ควรเข้ารับการตรวจคัดกรองเป็นประจำตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ หากตรวจแล้วทำการรักษาทันทีตั้งแต่ระยะเริ่มแรก มีโอกาสหายขาดได้เกือบ 100% เลยทีเดียว เพื่อจะได้ป้องกันได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ หากเรารู้จักปัจจัยความเสี่ยงของตัวเอง